ได้พิจารณาแล้วขอเสนอความเห็นดั่งต่อไปนี้ ตามมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน...
คณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าใจว่า ความข้องใจที่เกิดขึ้นน่าจะเนื่องด้วยการปฏิบัติราชการแผ่นดินในเรื่องรับสมัครเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทน...
นั้นหมายแต่เพียงเป็นการคาดคะเนว่าเรือนั้นอาจจะแวะหรืออาจจะไม่แวะท่าเรือแห่งประเทศไทยในระหว่างการเดินทางของเรือนั้นไปยังเมืองท่าต่างประเทศเท่านั้น...
และสำนักงบประมาณ) และผู้แทนกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) แล้ว เห็นว่า การจัดทำงบประมาณแผ่นดินโดยปกติจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับประมาณการรายรับและงบประมาณรายจ่ายภายในรอบปีงบประมาณเป็นหลักในกรณีจำเป็นที่จะต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อๆ...
ซึ่งห้ามมิให้บุคคลใดเก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่แร่ ดิน...
ให้อุปโภคสิทธิที่จะได้มา ครอบครอง และจำหน่ายสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ที่จะเดินทาง...
เมื่อได้พิจารณาพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบราชการบริหารแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๔๗๖ มาตรา ๑๙ ซึ่งบัญญัติว่า “ในการบริหารราชการแผ่นดิน...
ร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกาตามที่เสนอมานี้ยังไม่คลุมถึงกรณีสองกรณี กล่าวคือ (๑) คนไทยหรือคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยแล้วเดินทางออกนอกราชอาณาจักร...
อำนาจการบังคับบัญชาของปลัดกระทรวงศึกษาธิการก็ย่อมเป็นไปตามบทบัญญัติของมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน...
ค่าปรับที่เปรียบเทียบตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ตกเป็นของราชการส่วนท้องถิ่น โดยไม่ต้อง นําส่ง เป็นรายใต้แต่นดิน... มาใช้ได้หรือไม่ นั้น เห็นว่า มาตรา ๓๒5 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ บัญญัติให้นําค่าปรับเป็นพินัยส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน... ต้องระวางโทจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปร รับ ญาตรา ๓๒ ค่าปรับเป็นพินัยให้นําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน...