.๑๘๕๖ และก่อนสัญญาปี ค.ศ.๑๙๒๐ ก็มีอยู่บ้าง ข้อความจริงมีอยู่ดั่งนี้ และตามทางที่รัฐบาลสยามได้ปฏิบัติมานั่น... โดยเหตุนี้ข้อวินิจฉัยชี้ขาดของรัฐบาลเป็นคุณแก่คนสังกัดของเขา ข้อที่จะต้องวินิจฉัยจึ่งมีว่า... เพราะเหตุฉะนั้นจึ่งเป็นว่า การกระทำของรัฐบาล เพื่อให้เป็นผลในทางกฎหมาย ทางรัฐธรรมนูญ...
ซึ่งแต่เดิมรัฐบาลถวายเงินอุดหนุนโรงเรียนจำนวนเงินปีละ ๑๑๐,๐๐๐ บาท และได้ทูลเกล้าฯ... เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ได้พิจารณางบประมาณประจำปี ๒๕๑๙ ของวชิราวุธวิทยาลัย ประเภทเงินรัฐบาลอุดหนุนว่าเงินรัฐบาลอุดหนุนวชิราวุธวิทยาลัยนี้... มาตั้งแต่เมื่อทรงสร้างซึ่งแต่เดิมรัฐบาลถวายเงินอุดหนุนโรงเรียนเป็นจำนวนเงินปีละ...
ขอให้ติดต่อไปยังเลขาธิการองค์การสหประชาชาติในหลักการทั่วไป ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยให้ทำการตกลงระหว่างรัฐบาลกับกองบัญชาการผสมต่อไป... ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายที่จะส่งกำลังทหาร ๑ กรมผสมไปนั้น ได้พิจารณากันตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย... ไม่ใช่เป็นการตีความในรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เป็นแต่เพียงแสดงความเห็นในทางกฎหมายตามความต้องการของรัฐบาลเท่านั้น...
ถ้าได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติในท้องที่จังหวัดใด ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เป็นรายได้ของสุขาภิบาลจังหวัดนั้น... ก็ให้เบิกค่าใช้จ่ายจากกรมทางได้ตามควร แต่ต้องไม่เกินจำนวนเงินที่เก็บได้ในท้องที่นั้นๆ ข้อที่แตกต่างกันก็คือ เดิมสุขาภิบาลได้เงินรายนี้ไว้ทั้งหมดสำหรับใช้จ่ายกิจการสุขาภิบาลทั่วไป... แต่ตามร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมนี้ สุขาภิบาลต้องจำกัดให้เบิกจ่ายได้แต่เฉพาะเป็นค่าก่อสร้างฤาบำรุงรักษาถนนอย่างเดียว...
โดยมีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีตามประมวลรัษฎากรในพระราชบัญญัตินี้ ประกอบด้วยกรณี เทศบาล... องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจมีรายได้จากกรณีใดบ้าง เช่น กรณีองค์การบริหารส่วนตำบล เมืองพัทยา และเทศบาลในมาตรา...
เป็นการใช้อํานาจในการศวบคุมดูแลผู้ฟ้องคดี ให้ปฏิบัติตามอํานาจหน้าที่ตามมาตรา ซ๑ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล... แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๓ และมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล...
ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) ผู้แทนกรุงเทพมหานคร ผู้แทนเมืองพัทยา ผู้แทนเทศบาลนครหาดใหญ่... และผู้แทนเทศบาลเมืองภูเก็ต แล้ว เห็นว่า เมื่อพิจารณาจากแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียรวมหรือระบบกำจัดของเสียรวมของทางราชการตามมาตรา...
ถ้ารัฐบาลได้ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์นั้นมารัฐบาลก็ย่อมได้มาตามสภาพอันแท้จริงในกฎหมายเท่านั้น... ถ้าหากรัฐบาลจะอ้างว่า ความรับผิดของรัฐบาลตามข้อ ๗ ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการหนักหนาเกินไปแล้ว... ในที่สุดสมมติว่า เจ้าหนี้และรัฐบาลไม่อาจทำความตกลงกันดังว่ามานั้นได้ก็ต้องถือว่าความรับผิดของรัฐบาล...
เพราะเป็นเพียงเงินที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยืมจากกระทรวงอุตสาหกรรม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าเป็นเงินที่กระทรวงหนึ่งในรัฐบาลยืมจากอีกกระทรวงหนึ่งในรัฐบาลเท่านั้น... ไม่ใช่เงินกู้ที่รัฐบาลกู้ และในเรื่องนี้ ผู้แทนกระทรวงการคลังได้ชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่า... รัฐบาลไม่ได้กู้เงินเพื่อสมทบกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรในขณะนี้เลย ถ้าจะมีการกู้เงินกระทรวงการคลังซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายก็จะต้องเป็นผู้กู้...
ท้าวถึงสมัยซึ่งเบี้ยบำนาญเป็นของพระราชทานโดยทรงพระกรุณา ในทางปฏิบัติก็อยู่ในดุลยพินิจของรัฐบาลนั่นเอง... เพราะฉะนั้น รัฐบาลจึงอาจวินิจฉัยว่าในเรื่องเช่นนี้รัฐบาลจะไม่ให้บำนาญโดยใช้อำนาจดุลยพินิจอย่างเต็มที่... แต่โดยที่รัฐบาลมิได้ถืออำนาจในทางกฎหมายดังกล่าวแล้วมาวินิจฉัยในเรื่องเวลาราชการตอนหลังของพระยาวิเศษโภชนา...